วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว วัดสำคัญที่งดงามของกรุงเทพมหานคร เป็นวัดที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพร้อมกับพระบรมมหาราชวังและ
กรุงรัตนโกสินทร์ซึ่งเป็น การสร้างวัดในพระราชวังตามอย่างวัด พระศรีสรรเพชญ์ กรุงศรีอยุธยา วัดนี้อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอกทางทิศตะวันออก มีระเบียงล้อมรอบเป็นบริเวณ
เป็นวัดคู่กรุงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ใช้เป็นที่บวชนาคหลวง และประชุมข้าทูลละอองพระบาทถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา
สำหรับการเข้าชมวัดพระแก้ว ในช่วงนี้ที่สถานการณ์โควิดที่ยังไม่หายไป เปิดให้เข้าชมวัดในช่องประตูเดิม แต่มีการทำช่องทางเดินในฝั่งสนามหลวงเพื่อจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิ
เมื่อผ่านจุดคัดกรองไปยังประตูทางเข้าวัด จะต้องลงชื่อเข้าชมอีกครั้ง สำหรับพระบรมหาราชวังที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่เดียวกันยังไม่เปิดให้เข้าชม สามารถเข้าชมได้แค่ภายในวัดพระแก้วเท่านั้น
จุดแรกเมื่อเข้าไปข้างในจะพบกับภาพยักษ์วัดพระแก้ว พระศรีรัตนเจดีย์สีทอง ปราสาทพระเทพบิดร พระอัษฏามหาเจดีย์และจิตรกรรมฝาผนังวัดพระแก้วที่ตั้งเป็นกลุ่มเรียงรายกันงดงาม
บริเวณโดยรอบของฐานไพทีซึ่งเป็นที่ตั้งของพระศรีรัตนเจดีย์องค์ใหญ่สีทอง สร้างขึ้นตามแบบเจดีย์พระศรีสรรเพชญ์สมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในมีเจดีย์องค์เล็กประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
นอกจากนี้ยังมี พระมหามณฑป และปราสาทเทพบิดร เป็นอีกจุดที่สามารถเดินเล่นได้อย่างเพลิดเพลินและถ่ายรูปสวยกับรูปปั้นของสัตว์หิมพานต์ ไม่ว่าจะเป็นกินรี กินนร อสุรปักษี ครุฑ
นาค ยักษ์ และยังมีปราสาทพระเทพบิดร ปราสาทยอดปรางจัตุรมุข อีกหนึ่งจุดไฮไลท์ ยอดนิยมของการถ่ายภาพ ที่ทุกคนต้องมายืน หรือนั่ง เดินผ่านเสาปราสาทที่สวยงาม ถ่ายภาพกับ
ลวดลายลงรักปิดทอง และกระเบื้องที่ประดับรอบปราสาทพระเทพบิดร มีความงดงามตามแบบศิลปะไทยโบราณ จิตรกรรมฝาผนังวัดพระแก้ว เป็นจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์รอบระเบียงวัด
ที่ร้อยเรียงเล่าขานตำนาน เรื่องรามเกียรติ์ถึง 178 ห้อง เป็นภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่ยาวที่สุดในโลก ระหว่างทางเดินชมจิตรกรรม มีเสาสีขาวเรียงรายตลอดเส้นทางเดิน
มาถึงพระอุโบสถ มีระเบียงเดินได้โดยรอบ มีหลังคาเป็นพาไลคลุมรับด้วยเสานางรายปิดทองประดับกระจกที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ตัวพระอุโบสถมีฐานปัทม์รับอีกชั้นหนึ่ง
ประดับครุฑยุดนาคหล่อด้วยโลหะปิดทอง มีเสารายเทียนหล่อด้วยทองแดงล้อมรอบทั้งสี่ด้าน
ภายในประดิษฐานพระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ซึ่งรัชกาลที่ 1 ได้ทรงอัญเชิญมาจากเมืองเวียงจันทร์ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ซึ่งแกะสลักมาจากหยกสีเขียวเข้มที่มีค่า
และหายากมาก
พระแก้วมรกตมีเครื่องทรงที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ซึ่งเครื่องทรงเหล่านี้ทำด้วย ทองคำประดับเพชรและสิ่งมีค่าชนิดต่าง ๆ ถือเป็นพระราชกรณียกิจสำคัญประการหนึ่งของพระมหากษัตริย์
ตั้งแต่รัชกาลที่1 จนถึงรัชกาลปัจจุบันที่จะต้องเสด็จ ฯ ไปทรงเปลี่ยนเครื่องทรงประจำฤดูด้วยตนเองซึ่งกำหนดวันเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกตมีดังนี้
วันแรม 1 ค่ำ เดือน 4 เปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาวเป็นเครื่องทรงฤดูร้อน
วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 เปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาวเป็นเครื่องทรงฤดูฝน
วันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 เปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาวเป็นเครื่องทรงฤดูหนาว
ถ้ากล่าวถึงวัดพระแก้วจะไม่กล่าวถึงยักษ์คงจะไม่ได้ วัดพระแก้วเป็นวัดที่มียักษ์เยอะที่สุดในประเทศไทย มีมากถึง 12 ตน ที่คอยเฝ้าประตู หรือทวารต่างๆ ยักษ์ในภาพยืนเฝ้าด้านหน้า
ปราสาทเทพบิดร ขนาบข้างด้วยพระอัษฏามหาเจดีย์ ทั้งสองตนเป็น ยักษ์ตนที่ 5 : สุริยาภพ (มีกายสีแดง) เป็นโอรสของสหายทศกัณฐ์ เฝ้าด้านหน้าปราสาทพระเทพบิดร และยักษ์ตนที่ 6
อินทรชิต (มีกายสีเขียว) เป็นบุตรทศกัณฐ์กับนางมณโฑ พระอัษฏามหาเจดีย์ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าพระอาราม สร้างสมัยรัชกาลที่1 เพื่อถวายแด่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตั้งอยู่ภายนอกระเบียง 6 องค์
ภายในระเบียง2องค์มีชื่อประจำทุกองค์
มาเที่ยว วัดพระแก้ว กราบสักการะพระแก้วมรกตพระคู่บ้านคู่เมืองของประเทศ แนะนำใช้เวลาทั้งวัน เดินให้ทั่ว ดื่มด่ำเสพศิลป์ยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ สิ่งก่อสร้างภายในวัด ทุกผนัง ทุกเสา
ทุกกำแพงล้วนมีเรื่องราวที่งดงามและน่าจดใจ
วัดพระแก้ว เปิดให้เข้าชมทุกวัน 08.30-15.30 น. คนไทยเข้าชมฟรี ชาวต่างชาติ 200 บาท
การแต่งกาย
ผู้ชาย: ห้ามใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ
ผู้หญิง: ห้ามใส่เสื้อกล้าม ใส่เสื้อไม่มีแขน กางเกงสามส่วน รองเท้าแตะ กระโปรงต้องเป็นกระโปรงที่ยาวคลุมเข่า
ข้อห้าม
ห้ามถ่ายรูปภายในพระอุโบสถและพระแก้วมรกต
เดินทางด้วยรถส่วนตัวสามารถนำรถไปจอดที่ลานจอดรถราชนาวีสโมสร ตรงข้ามฝั่งด้านข้างของวัด มีที่จอดรถกว้างขวางสะดวกสบาย เปิดตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.
จอดฟรี 15 นาที/ 2 ชม.แรก 30 บาท ชม.ที่ 3 30 บาท/จอดเกิน 4 ชม.เหมา 100 บาท จอดได้จำนวน 200 คัน
วัดมหาธาตุ จอดได้ตลอด 24 ชม.: ชม.ละ 20 บาท จอดได้จำนวน 40 คัน
ท่ามหาราช จอดได้ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. : จอดฟรี 15 นาที /มีบัตรประทับ 2 ชม.แรก 20 บาท/หลังจากนั้น ชม.ละ 40 บาท/หลังเที่ยงคืน ชม.ละ 100 บาท จอดได้จำนวน 150 คัน